องค์นี้.พิมพ์พระสาม..แต่ตัดเดิมมาแค่สององค์สภาพผิวเดิมจากกรุ
เป็นอีกหนึ่งพิมพ์ที่ พบเห็นได้น้อยมาก
วัดโฉมบางศรี เป็นวัดในมหานิกาย สร้างขึ้นมานานเป็นร้อยปี แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ? หรือสร้างในยุคสมัยใด ?หากแต่พออนุมานได้จาก ศิลปะของโบราณสถาน ภายในวัดได้ว่า น่าจะสร้างขึ้นในช่วงยุคอยุธยาตอนปลายหรือต้นรัตนโกสินทร์ สถานที่ตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่ได้ชื่อว่าวัดโฉมศรี อาจเป็นเพราะทางทิศใต้ของวัดติดกับคลองบางโฉมศรี พระกรุนี้แตกกรุเมื่อประมาณ พ.ศ 2481-2482 เนื่องจากพระเจดีย์ที่อยู่ด้านหน้าวัด ริมฝั่งแม่น้ำถูกน้ำเซาะจนหักโค่นลง ทำให้นายอำเภออินทร์อินทร์บุรีในยุคนั้นพบเข้าโดยบังเอิญขณะตรวจท้องที่ เมื่อตรวจสอบจึงพบพระจำนวนหนึ่ง มีทั้งเนื้อดินและเนื้อตะกั่วสนิมแดง หลากหลายพิมพ์ทรง ที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย ได้แก่พิมพ์นั่งมารวิชัย ถือตาลปัตร ฐานสูง ที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าพิมพ์หลวงพ่อพัด พระพิมพ์ลีลาหลายพิมพ์ พิมพ์ยืนปางถวายเนตร พิมพ์สังกัจจายน์ ฯลฯ ว่ากันว่า พระกรุนี้มีเกจิฯดังทั้งสายชัยนาท และสายสุพรรณ เข้าร่วมปลุกเศก ทำให้นักสะสมรุ่นเก่าบางท่าน เล่นหาเป็นพระของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย เมืองสุพรรณ หรือของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า เท็จจริงไม่ขอยืนยัน หากแต่ดูจากความเก่าแก่ของเนื้อหา ตลอดจนพุทธศิลป ก็สามารถบอกได้ว่าพระกรุนี้อายุมากเป็นร้อย ๆ ปี อย่างแน่นอน แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน แต่พระกรุนี้มีประสบการณ์กับผู้อาราธนามากมายโดยเฉพาะด้านแคล้วคลาด คงกระพัน คนพื้นที่รอบ ๆ วัดนี้ต่างรู้ดี